ประเภทของสเตนเลส
ซึ่ง
โดยทั่วไปสเตนเลสแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ตามโครงสร้างคือ ออสเทนนิติค
เฟอร์ริติค ดูเพล็กซ์
มาร์เทนซิติค และเหล็กกล้าชุบแข็งแบบตกผลึกตระกูลออสเทนนิติค
(Austenitic)หรือที่รู้จักกันใน "ซีรี่ส 300" ซึ่งประมาณได้ว่า 70
เปอร์เซนต์ของการผลิตสเตนเลสในโลกนี้เป็นสเตนเลส
|
 | ตระกูลออสเทนนิติค
(Austenitic) ที่
ประกอบด้วยคาร์บอนอย่างน้อย 0.15 เปอร์เซนต์ มีส่วนผสมของโครเมียมอย่างน้อย
16 เปอร์เซนต์ และ นิกเกิล หรือซึ่งช่วยปรับปรุง
คุณสมบัติในการขึ้นรูปประกอบและเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน
บางเกรดจะมีแมงกานีสผสมอยู่ด้วย โดยทั่วไปจะมีโครเมียม 18 เปอร์เซนต์
นิกเกิ้ล 10 เปอร์เซนตื
และมักเรียกกันว่า 18/10 ซึ่งคล้ายกับ 18/0 และใ18/8
ตระกูลเฟอร์ริติค
(Ferritic) มีสมบัติดูดแม่เหล็ก มีโครเมียมเป็นธาตุผสมหลักระหว่าง 10.5-27 เปอร์เซนต์ บางเกรดผสมนิกเกิ้ลลงไปเล็กน้อย บางเกรดผสมโมลิบดินัม
หรืออลูมิเนียม ไททาเนียม
ตระกูลมาร์เทนซิติค (Martensitic) เป็น
ตระกูลที่มีความต้านทานการกัดกร่อนน้อยกว่าออสเทนนิติค และเฟอร์ริติค
แต่มีความทนทานและแข็งแรงมากกว่า มีคุณสมบัติดูดแม่เหล็ก
โดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของโครเมียม 14 เปอร์เซนต์ โมลิบดินัม 0.2-1
เปอร์เซนต์ มีนิกเกิ้ล 0-2 เปอร์เซนต์และมีคาร์บอนผสม อยู่ประมาณ 0.1-1
เปอร์เซนต์
ซึ่งสามารถชุบแข็งได้โดยการให้ความร้อนแล้วทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็วและอบ
คืนตัว
โดยทั่วไปจะรู้จักกันใน "ซีรี่ส -00"
ตระกูลดูเพล็กซ์
(Duplex) เนื่องจากมีโครงสร้างผสมระหว่าง
โครงสร้างเฟอร์ไรต์และออสตไนต์
จึงทำให้มีความแข็งแรงมากกว่าออสเทนนิติคและมีความทนทานต่อการกัดกร่อนชนิด
รูเข็ม ซอกอับ มีโครเมียมเป็นธาตุผสมอยู่ระหว่าง 19 ถึง 28 เปอร์เซนต์
โมลิบดินัมสูงกว่า 5 เปอร์เซนต์
และมีนิกเกิลน้อยกว่าตระกูลออสเทนนิติคใช้งานมากในสภาพแวดล้อมที่มีคลอไรด์
สูง
|
ตระกูลเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก มี
ความต้านทานกการกัดกร่อนเทียบเคียงกับตระกูลออสเทนนิติค
มีความแข็งแรงมากกว่าตระกูลมาร์เทนซิติค
เกรด 17-4H ที่รู้จักกันทั่วไป มีโครเมียมผสมอยู่ 17
เปอร์เซนต์และมีนิกเกิล 4 เปอร์เซนต์ ทองแดง และไนโอเบียม ผสมอยู่ด้วย
เนื่องจาก สเตนเลสชนิดนี้สามารถชุบแข็งได้ในคราวเดียว
จึงเหมาะสำหรับทำแกน ปั๊มหัววาล์ว และส่วนประกอบของ อากาศยาน
|
แนวทางการป้องกันการเสื่อมสภาพ 2 ขั้นตอน
1. ขั้นตอนในการออกแบบให้คำนึงถึงส่วนประกอบที่ต้องสัมผัสกับวัสดุอื่นโลหะ น้ำหรือของเหลว ในขณะการใช้งาน กล่าวคือ
- เลือกใช้งานสแตนเลสชนิดที่เหมาะสมกับการใช้งาน
- การออกแบบต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้มีที่ว่างหรือช่องแคบ
- คำนึงถึงความสะดวกในการทำความสะอาด
- หลีกเลี่ยงการออกแบบที่สแตนเลสสัมผัสกับโลหะต่างชนิดเพื่อป้องกันการเกิดการกัดกร่อนแบบ เซลล์ไฟฟ้าเคมี
2. การผลิตชิ้นงาน และการติดตั้ง
- ถ้าชิ้นงานมีฟิล์มพลาสติกเคลีอบอยู่เพื่อป้องกันผิวจากรอยขีดข่วนควรลอกพลาสติกที่เคลือบอยู่
ออกหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการขั้นสุดท้าย
หรือโดยเร็วที่สุดหลังจากการติดตั้งชิ้นงาน หรือเก็บชิ้นงานไว้กลางแจ้ง
และในกรณีที่มีคราบสกปรกให้ทำความสะอาดด้วยสารทำความสะอาดที่เหมาะสม
และล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนหมดจด
- สิ่งที่ควรทำหลังจากการขึ้นรูปนูนต่ำ ลากขึ้นรูปลึก
และการขึ้นรูป
ควรใช้เครื่องมือที่สะอาดไม่มีเศษตกค้างของเหล็กและเหล็กกล้าจากงานอื่นๆ
อยู่ ใช้น้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสม ส่วนการขจัดคราบน้ำมัน
ควรใช้สารละลายทำความสะอาดที่ผ่านการกลึงเจาะ
ไสอาจจะนำไปผ่านกระบวนการพาสซิเวขั่น
เพื่อป้องกันการกัดกร่อนที่อาจเกิดขึ้นได้ควรเช็ดหรือทำบริเวณที่มีน้ำตก
ค้างให้แห้ง เพื่อป้องกันคราบน้ำที่อาจเกิดขึ้น
|
|
วิธีการทำความสะอาดสำหรับคราบสกปรกทั่วๆ ไป | คราบสกปรก | วิธีการทำความสะอาด | รอยนิ้วมือ | ล้างด้วยสบู่ ผงซักฟอก หรือสารละลาย เช่น แอลกอฮอล์ หรืออาเซโทน ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง | น้ำมัน , คราบ | ล้าง
ด้วยสารละลายไฮโดรคาร์บอน / ออร์กานิก (เช่น แอลกอฮอล์) แล้วล้างด้วยสบู่ /
ผงซักฟอกอย่างอ่อน และน้ำ ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง
แนะนำให้จุ่มชิ้นงานให้โชกก่อนล้างในน้ำสบู่อุ่นๆ | สี | ล้างออกด้วยสารละลายสี ใช้แปรงไนล่อนนุ่มๆ ขัดออก แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นและเข็ดให้แห้ง | Carbon Deposit or Baked-on | จุ่มลงในนำ้ ใช้สารละลายที่มีแอมโมเนียเ็ป็นส่วนประกอบ ล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้ง | เปลี่ยนสีเนื่องจากความร้อน | ทา
ครีม (เช่น บรัสโซ) ลงบนแผ่นขัดที่ไม่้ได้ทำจากเหล็ก
แล้วขัดคราบที่ติดบนสแตนเลสออก ความร้อนขัดไปในทิศทางเดียวกันกับพื้นผิว
ล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้ง | ป้ายและสติกเกอร์ | จุ่มลงในนำ้สบู่อุ่นๆ ลอกเอาป้ายออกแล้วถูกาวออกด้วยเบนซิน ล้างออกด้วยสบู่และน้ำ จากนั้นให้ล้างด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ | รอยน้ำ / มะนาว | จุ่ม
ลงในน้ำสัมสายชูเจือจาง (25%) หรือกรดไนตริก (15%) ล้างให้สะอาด
ล้างออกด้วยสบู่และน้ำ จากนั้นล้างให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น
เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ | คราบชา - กาแฟ | ล้างด้วยโซดาไบคาร์บอเนตในน้ำ ล้างออกด้วยสบู่และน้ำจากนั้นล้างให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ | คราบสนิม | จุ่ม
ในน้ำอุ่นท่มีส่วนผลมสารละลายกรดไนตริก ในอัตราส่วน 9 ต่อ 1
ประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด
หรือล้างผิวด้วยสารละลายกรดออกชาลิคทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
ล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้งหรือต้องใช้เครื่องมือล้างหารคราบสนิมติด
แน่น |
|
|
|
|